สถานที่ท่องเที่ยวที่หน้าสนใจ

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล ครอบคลุมเนื้อที่ 1,775 ไร่ ในท้องที่อำเภอเนินมะปราง ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลก 85 กิโลเมตร การเดินทางเริ่มจากตัวเมืองพิษณุโลกไปตามทางหลวงหมายเลข 12 ถึงอำเภอวังทองระยะทาง 20 กิโลเมตร แยกขวาไปยังอำเภอสากเหล็กอีก 38 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 11 แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวง 1115 อีก 17 กิโลเมตร ถึงโรงเรียนเนินมะปรางศึกษาวิทยา (ก่อนถึงตัวอำเภอ 2 กิโลเมตร) มีแยกขวาไปถ้ำผาท่าพลอีก 10 กิโลเมตร เส้นทางบางช่วงเป็นทางลูกรัง ในฤดูฝนควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ

พื้นที่บริเวณนี้เป็นภูเขาหินปูน ยอดสูงสุด 236 เมตร มีหน้าผาสูงชันเว้าแหว่ง อันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำฝนนับหลายล้านปี เกิดเป็นถ้ำต่างๆ มากมายทั่วบริเวณ ได้แก่ ถ้ำนเรศวร ถ้ำเรือ ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ถ้ำลอด ซึ่งสามารถเดินทะลุไปยังอีกด้านหนึ่งของภูเขาได้ นอกจากนี้ยังพบซากดึกดำบรรพ์ของหอยและปะการัง เนื่องจากบริเวณนี้เคยเป็นท้องทะเลมาก่อน และยังมีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์รูปมือคนบนเพิงผาหิน และอักษรญี่ปุ่นโบราณสลักบนก้อนหิน พรรณไม้และร่องรอยสัตว์ป่าต่างๆ ที่มักพบระหว่างทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติ เหมาะแก่การทัศนศึกษาเชิงนิเวศ

นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อขอข้อมูลได้เจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางมาถึงยังสำนักงานเขต การเที่ยวชมถ้ำต่างๆ ต้องนำไฟฉายติดตัวมาด้วย ในช่วงฤดูฝนถ้ำบางแห่งไม่สามารถเข้าชมได้เนื่องจากมีน้ำท่วมพื้นถ้ำ หากต้องการพักค้างแรมหรือทัศนศึกษาเป็นหมู่คณะติดต่อล่วงหน้าได้ที่ สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล หมู่ 6 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก 65190

ถ้ำพระวังแดง เป็นถ้ำที่ยาวและใหญ่เชื่อมต่อกันหลายถ้ำ มีความยาวประมาณ 12.5 กิโลเมตร ถือว่าเป็นถ้ำที่ยาวมาก ภายในถ้ำมีห้องโถงขนาดใหญ่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และมีลำห้วยอยู่ด้านล่างภายในลำห้วยมีสิ่งที่น่าสนใจเป็นปลาพันธุ์ใหม่หายาก คือ ปลาค้อถ้ำพระวังแดง หรือ ปลาไม่มีตาเนื่องจากอาศัยอยู่ในถ้ำเป็นเวลานานจนมีการปรับสภาพให้เหมาะแก่การดำรงชีวิตภายในถ้ำซึ่งไม่มีแสงเพียงพอ ลักษณะลำตัวยาว 15 เซนติเมตร หลังค่อม ริมฝีปากหนา ไม่มีตา แต่เห็นเป็นรอยเล็กๆ และมีติ่งหนังด้านหน้า ลำตัวสีชมพูอมเหลืง ปลาอีกพันธุ์หนึ่งที่พบในถ้ำนี้คือ ปลาถ้ำพลวง หรือ ปลาตาบอดมีลักษณะแตกต่างจากปลาพลวงชนิดอื่นๆ คือ มีตาเล็กและมีหนังบางๆ หุ้มโดยรอบดวงตา ริมฝีปากหนา มีหนวด 2 คู่ หลังโค้งมนมีเกล็ดบางบำตัวสีชมพูจางปนกับสีเทาอ่อนๆ ยาวประมาณ 40เซนติเมตร

การเข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงที่5) เพื่อหลีกเลี่ยงอันตายหรือพลัดหลง

ค้างคาวนับแสนตัวอพยพหนีเสียงระเบิดหินจากโรงโม่เข้าไปอาศัยอยู่ในถ้ำบ้านมุง วัดบ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หวังดึงนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ

ที่บริเวณวัดบ้านมุง หมู่ 1 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งอยู่ติดกับภูเขาหินปูน มีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ในบริเวณนี้ 2 แห่ง พบว่าช่วงนี้มีฝูงค้างคาวอพยพมาอาศัยอยู่หลายแสนตัว สร้างความตื่นตาให้กับชาวบ้าน และผู้เดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าวที่พบเห็นอย่างมาก ซึ่งชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ค้างคาวเหล่านี้ไว้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่อีกแห่งของตำบลบ้านมุง หวังดึงดูดนักท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก

นางเพ็ง แสงแก้ว อายุ 69 ปี ชาวบ้าน บอกว่า ดีใจที่ฝูงค้างคาวอพยพจากเขตระเบิดหินของโรงโม่หินดาวศุภกิจ ซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบ 2 กิโลเมตร มาอยู่ภายในถ้ำวัดบ้านมุง โดยในช่วง 5 ถึง 6 โมงเย็น  ชอบดูค้างคาวบินเป็นสายกลับเข้าถ้ำเพราะสวยดี ทำให้เพลิดเพลินตา นั่งดูครั้งหนึ่งก็นานเป็นชั่วโมง 

ขณะที่ นางบุญอุ้ม บุญเจือ อายุ 46 ปี ชาวบ้าน บอกว่า เห็นค้างคาวมาอาศัยในบริเวณเขาหินปูนมาตั้งแต่เกิด แต่ช่วงนี้ค้างคาวมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากนับล้านตัว และอยู่ในถ้ำหลายแห่งในเขาหินปูนตลอดเส้นทาง ตำบลบ้านมุง และตำบลเนินมะปราง อีกทั้งขณะที่ ค้างคาวที่อพยพหนีการระเบิดหินก็อพยพมาอาศัยในถ้ำบริเวณวัดบ้านมุงจำนวนมาก นับเป็นฝูงใหญ่ที่สุด ชาวบ้านจึงช่วยกันอนุรักษ์เอาไว้ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว ของตำบลบ้านมุง เป็นจุดเด่นดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาก เศรษฐกิจในหมู่บ้านจะได้ดีขึ้น นอกจากนี้ มูลค้างคาวยังสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง ซึ่งชาวบ้านนำเงินขายมูลค้างคาวมา พัฒนาวัดบ้านมุงและหมู่บ้านให้เจริญขึ้น 

สำหรับถ้ำเขาบ้านมุง อยู่ในเขตอำเภอเนินมะปราง ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 81 กิโลเมตร ไปตามถนนสายพิษณุโลก - หล่มสัก ประมาณ 17 กิโลเมตร แล้วแยกไปตามถนนสายวังทอง-เขาทราย ถึงสากเหล็ก ประมาณ 38 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายอีกประมาณ 26 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านและทางเข้าวัดบ้านมุง ไกลออกไปอีก 2 กิโลเมตร มีภูเขาสูงชันหลายลูก ประกอบด้วยภูเขาผาแดงสะดุดตา มีถ้ำประกอบด้วยหินงอก หินย้อย เป็นหลืบ ลึกลับซับซ้อน เรียกถ้ำนี้ว่า "ถ้ำดาวถ้ำเดือน" นอกจากนี้ในเขตอุทยานฯ ยังมีถ้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งคือ "ถ้ำพระบ้านวังแดง" อยู่ที่ตำบลชมพู ห่างจากอำเภอเนินมะปราง 22 กิโลเมตร 

'น้ำตกถ้ำหมี'แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่
'พิษณุโลก' พบ 'น้ำตกถ้ำหมี' แหล่งท่องเที่ยวบ้านรักไทย สวยงามหน้าฝน

      11 ก.ค.56  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านรักไทย หมู่ 9 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก นายประคอง บัวคง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ได้พบน้ำตกแห่งใหม่ และพาผู้สื่อข่าวไปดูน้ำตกถ้ำหมี ที่ทางชาวบ้านค้นพบที่บริเวณท้ายหมู่บ้าน เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นน้ำตกต้นน้ำของเทือกเขาเพชรบูรณ์ ห่างจากหมู่บ้านเพียง 2 กม.เท่านั้น ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เดินเท้าเข้าไปสำรวจน้ำตกดังกล่าว ก็พบว่ามีเส้นทางธรรมชาติทีเป็นป่าต้นน้ำ ท่ามกลางป่าไม้เบญจพันธุ์ ซึ่งการเดินทางต้องระมัดระวัง เนื่องจากเป็นภูเขาสูงต่ำ ต่างระดับกัน อีกทั้งบางช่วงเป็นที่ลาดชัน แต่ชาวบ้านก็ได้ช่วยกันนำท่อนเหล็กมาทำเป็นราวเกาะ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเดินเท้าไปประมาณ 1 กม.ก็พบน้ำตกถ้ำหมี ที่สวยงาม ที่มีความสูงประมาณ 100 เมตร น้ำตกไหลกระเซ็น กระทบกับขดหินด้านล่างอย่างสวยงาม มีสายน้ำที่ไหลมาเป็นน้ำตกด้วยกัน 2 สาย จนเกิดเป็นแอ่งน้ำตกขนาดใหญ่ ซึ่งใครเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่ต้องรีบถ่ายภาพเอาไว้ไปฝากเพื่อนฝูง หรือเก็บเอาเป็นความประทับใจ 
            
นายประคอง บัวคง ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า น้ำตกถ้ำหมีแห่งนี้มีชาวบ้านในหมู่บ้านเดินมาหาของป่า และพบน้ำตกเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีนักท่องเที่ยวรู้จักมากนัก อีกทั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลก กว่า 100 กม.ทำให้การเดินทางค่อนข้างลำบาก แต่ปัจจุบัน ทาง ททท.สำนักงานพิษณุโลก ได้เปิดการท่องเที่ยวทุ่งโนนสน ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ของบ้านรักไทย อ.เนินมะปราง น้ำตกถ้ำหมี ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของการเดินทางไปเที่ยวทุ่งโนนสน ทำให้เป็นอีกจุดที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งที่อยากให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมกัน ทั้งนี้เนื่องจากน้ำตกถ้ำหมี มีความงามทางธรรมชาติ รับรองว่านักท่องเที่ยวเมื่อมาพบเห็นน้ำตกแห่งนี้จะหายเหนื่อย และอาจพักผ่อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว น้ำตกถ้ำหมีจะมีความสวยงามเป็นอย่างมาก มีน้ำไหลตลอดเวลา หากผู้ใดสนใจต้องการไปเที่ยวชมน้ำตกแห่งนี้ก็สามารถสำนักงานการท่องเที่ยวพิษณุโลกเป็นประจำทุกวัน
  นอกจากนี้ชาวบ้านแห่งนี้ยังพาผู้สื่อข่าวไปเที่ยวชมป่าชุมชน และจุดชมวิว บ้านเผ่าไทย หมู่ 8 ที่อยู่ติดกัน เพื่อสัมผัสกับป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ และเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะจุดชมวิว ที่เป็นหน้าผาสูง สามารถมองเห็นหมู่บ้านชมพู อ.เนินมะปราง และธรรมชาติต่างๆ แบบสุดลูกหูลูกตาทีเดียว และที่สำคัญในช่วงฤดูฝนและหน้าก็จะมีทะเลหมอกให้นักท่องเที่ยวได้ชมและสัมผัสอีกด้วย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น